สะพานส้ม หรือ Orange Bridge เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของวังเวียงที่ไม่ควรพลาด สะพานแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางสัญจร แต่ยังเป็นฉากหลังสุดโรแมนติกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
สะพานนี้มีชื่อจริงว่า สะพานเซิง ซึ่งแปลว่า “สะพานแขวน” ตามภาษาท้องถิ่น แต่สีส้มที่โดดเด่นของมันทำให้ทุกคนเรียกติดปากว่า สะพานส้ม ซึ่งก็เป็นชื่อที่เหมาะเจาะและน่าจดจำ
จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของสะพานส้ม
- สีสันที่ตัดกับธรรมชาติ: สีส้มสดใสของสะพานตัดกับสีเขียวของภูเขาและสีฟ้าของท้องฟ้าได้อย่างลงตัว ทำให้ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ออกมาสวยงามราวกับภาพวาด
- วิวที่น่าทึ่ง: เมื่อคุณเดินข้ามสะพาน คุณจะได้เห็นวิวแม่น้ำซองที่ไหลผ่านเบื้องล่าง และทิวเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านอยู่รอบๆ ยิ่งเป็นช่วงเช้าหรือช่วงเย็นที่แสงสวยๆ ยิ่งทำให้บรรยากาศโรแมนติกขึ้นไปอีก
- เส้นทางสู่การผจญภัย: สะพานส้มเป็นเหมือนประตูสู่กิจกรรมสนุกๆ ในวังเวียงอีกมากมาย เช่น ถ้ำจัง บลูลากูน 1 และ 2 ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ขึ้นชื่อ
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ถ้าอยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น หรือช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เพราะแสงแดดจะนุ่มนวลเป็นพิเศษ
- ค่าเข้าชม: การเดินข้ามสะพานมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย (ประมาณ 5,000 กีบ) ซึ่งจะช่วยดูแลรักษาสะพานให้อยู่ในสภาพดีต่อไป
- การเดินทาง: สะพานส้มอยู่ไม่ไกลจากตัว เมืองวังเวียง สามารถเดินไปได้จากใจกลางเมือง หรือจะเช่าจักรยานและมอเตอร์ไซค์ไปก็ได้
ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางมาเที่ยววังเวียงอย่าลืมไปถ่ายรูปเช็คอินที่สะพานส้มนะ ! จะได้มีรูปถ่ายสวย ๆ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน !